สูตรแทงบอลแบบผิด ๆ ทำให้ไม่ได้รับกำไรและขาดทุนไปอีกจากการแทงบอลออนไลน์

เลือกสูตรผิดทำให้ชีวิตเปลี่ยนจากการแทงบอลออนไลน์

ในการแทงบอลนั้นมักจะมีการแบ่งกลุ่มของผู้เล่นอย่างชัดเจน 2 ฝั่ง หนึ่งคือผู้เล่นที่สามารถทำกำไรออกไปได้อย่างสม่ำเสมอราวกับมี สูตรแทงบอล  สองคือกลุ่มของผู้เล่นที่สามารถทำกำไรออกไปได้บ้างแต่มักจะขาดทุน โดยอัตราส่วนของทั้งสองฝั่งนั้นแตกต่างกันอยู่ถึง 30 / 70 ในปัจจุบัน สิ่งที่น่าตกใจอีกอย่างหนึ่งก็คือคนกลุ่มพวกนี้นั้นบ้างจะเป็นกลุ่มพวกเล่นคนเดิม ๆ ซึ่งในวันนี้พวกเราจะมาแนะนำหากคุณเลือกใช้สูตรแทงบอลแบบผิด ๆ อาจจะทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนไป จากการจะได้รับผลกำไรกลายเป็นขาดทุน มีดังนี้้

1. ไม่ให้ความสนใจในเรื่องของราคาบอลที่เกิดขึ้นในจากการแข่งขัน

หาก นักแทงบอล ที่ไม่ให้ความสนใจในเรื่องของราคาบอลที่เกิดขึ้น โดยมากมักจะไปโฟกัสและให้ความสนใจเกี่ยวกับทีมฟุตบอลที่ตัวเองจะทำการแทงบอล ซึ่งในแต่ละครั้ง เรื่องของราคาบอลนั้นมีความสำคัญมากที่สุด ว่าทีมฟุตบอลที่เข้าแข่งขันทั้งสองทีมเสียอีก โดยนักแทงบอลมืออาชีพหลาย ๆ คนนั้นสามารถแทงบอลได้โดยดูจากราคาบอลเท่านั้น โดยที่คุณไม่รู้เลยว่าทีมฟุตบอลไหนกำลังแข่งขันกันอยู่ ซึ่งมีความแม่นยำมากกว่าการดูทีมฟุตบอลเป็นหลักเสียอีก มีดังนี้

• ราคาบอลมีผลต่อจำนวนเงินกำไรที่ผู้เล่นจะได้จากการลงเดิมพันโดยตรง ถึงแม้ว่าการแข่งขันฟุตบอลของผู้เล่นนั้นจะสามารถชนะได้ แต่ถ้าเกิดราคานั้นไม่ได้เป็นไปตามที่ผู้เล่นคิด ต่อให้ชนะกันก็ไม่มีความหมายเพราะผู้เล่นจะไม่ได้รับเงินและผลกำไรกลับไปเลยแม้แต่บาทเดียว
• ควร แทงบอล กับทีมฟุตบอลที่มีอัตราการต่อรองสอดคล้องกับการลงเดิมพันของผู้เล่น
• หากการแข่งขันนั้นมีอัตราการต่อรองหรือราคาผ่อนอยู่ที่ประมาณ 3 เท่า ในส่วนตรงนี้หาผู้เล่นนั้นเลือกลงเดิมพันกับทีมฟุตบอลหลักที่มีภาษีในการแข่งขันชนะมากกว่า ทีมฟุตบอลหลักจะต้องยิงประตูให้มากกว่าฝ่ายตรงข้ามถึง 4 ประตู ตัวของผู้เล่นนั้นจึงจะสามารถทำกำไรกลับไปได้ 100% ซึ่งมันเกิดขึ้นได้ยากมาก ๆ กับการที่จะมีการยิงประตูมากกว่าฝ่ายตรงข้ามทั้ง 4 ประตู โดยปกติแล้วจะไม่ถึง 1 หรือ 2 ประตูเท่านั้น
• ผู้เล่นอาจจะไม่ได้รับเงินรางวัลกลับไปเลย เพราะถือว่าอัตราการต่อรองนั้นสูงเกินไป แต่กลับกันหากคุณมองอีกด้านในตรงนี้ คุณจะลงทุนเดิมพันกับทีมฟุตบอลรองที่มีภาษีในการแข่งขันน้อยกว่า ถึงแม้ทีมการแข่งขันนั้นจะไม่สามารถเอาชนะได้ แต่หากไม่โดนยิงนำไปมากถึง 4 ประตู ตรงนี้ผู้เล่นจะได้รับเงินลงทุนคืนหรือไม่ก็อาจจะได้เงินกำไรอยู่ประมาณครึ่งหนึ่งของเงินที่ลงทุนไป

ในการแข่งขันแต่ละครั้งถ้าเกิดผู้เล่นไม่อยากคิดมากหรือมีปัญหาอะไรให้วุ่นวาย ให้เลือกทำการลงทุนกับอัตราการต่อรองที่ต่ำอยู่ที่สูงเท่าหรือไม่เกิน 1 เท่าในแต่ละครั้ง ซึ่งเป็นการลงทุนที่ทีมฟุตบอลทั้ง 2 ทีมนั้นมีความเสี่ยงและเลือกลงทุนพอ ๆ กัน มาทำให้ผู้เล่นนั้นสามารถเอาชนะการแข่งขันฟุตบอลได้แบบไม่ต้องคิดมากจนเกินไป และไม่ต้องกังวลในเรื่องส่วนของอัตราการต่อรองหรือราคาบอลที่สูงเกินไป

2. การแทงบอลเป็นเรื่องของดวงและโชคลาภ

บางคนชอบมองว่าการ แทงบอล นั้นเปรียบเสมือนการเล่นโยนเหรียญแบบหัวก้อย โดยที่คุณอาจจะวัดจากความเสี่ยงในการลงเดิมพันที่ 50% ซึ่งมันก็ถูกต้องเพราะว่าการแทงบอลนั้นมีความเสี่ยงอยู่ที่ 50% จริง ๆ แต่หากคุณมองให้ลึกลงไปแล้วจะพบอีกว่ามันมีปัจจัยหลายอย่างที่สาคุณมารถนำมาวิเคราะห์ในเกมการแข่งขันได้ ว่าทีมจะมีโอกาสชนะและแพ้มากน้อยแค่ไหนในการแข่งขันนัดนั้น ต่างจากการโยนเหรียญแบบหัวก้อย โดยที่คุณไม่มีข้อมูลอะไรในการอ้างอิงเลย มีดังนี้

• การลงคะแนนฟุตบอลแต่ละครั้งมีตัวแปรหลายอย่างที่ส่งผลต่อการแพ้ชนะการแข่งขัน ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะสามารถนำตัวแปรหรือปัจจัยทั้งหมดมาวิเคราะห์ในเกมการแข่งขันได้ เพราะมันละเอียดและยังไม่รวมถึงตัวแปรที่คุณไม่รู้มาก่อน ดังนั้นคุณควรมองแต่ปัจจัยใหญ่ ๆ ที่ส่งผลต่อเกมการแข่งขันในภาพรวม
• การเลือกทีมที่ทำกำไรให้คุณ โดยดูว่าทีมฟุตบอลทีมนั้นมีอัตราการเอาชนะมากน้อยแค่ไหนในแต่ละครั้ง อาจจะเริ่มสำรวจจากผลการแข่งขันย้อนหลัง 10 ครั้ง หรืออาจจะลงรายละเอียดอีกหน่อยก็ประมาณ 2 – 3 เดือน ซึ่งดูว่ามีอัตราการชนะที่น่าสนใจไหม
• อัตราการเอาชนะการแข่งขันนั้นควรจะสูงมากกว่า 50% จึงจะถือได้ว่าเป็นทีมฟุตบอลที่ทำกำไรให้แก่คุณ
• ฟอร์มการเล่นของทีมนั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ทีมฟุตบอลที่สามารถเอาตัวรอดหรือทำผลงานได้ดีในการแข่งขันรายการที่แล้วแล้วมานั้น ไม่ได้หมายความว่าในการแข่งขันนี้จะทำได้ดีครั้ง ฟอร์มนี้เป็นส่วนที่ไม่สามารถนำมาคิดและคำนวณได้แต่มีความสำคัญมากในการลงทุน

หากในการลงทุนแต่ละครั้งนั้นผู้เล่นตัดสินใจลงทุนจากเหตุผลที่มีความเป็นไปได้ต่าง ๆ ในการลงทุน จะช่วยทำให้คุณแทงบอลได้อย่างแม่นยำแตกต่างจากเดิมมากขึ้น จากแต่เดิมที่ผู้เล่นนั้นมักจะเลือกทำการลงเดิมพันจากความรู้สึกหรือความชอบของตัวเอง ซึ่งไม่ใช่ปัจจัยที่ควรนำมาคิดและกังวลว่าทีมไหนจะเป็นผู้ชนะในการแข่งขันนัดนั้น

3. รีบร้อนจนมองไม่เห็นภาพรวมในการแข่งขัน

ปัญหานี้ยังคงเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นนักแทงบอลรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่า เพราะทุกคนนั้นมีอาการที่เสพติดการพนันเหมือนกัน โดยในบางคนนั้นไม่ได้สนใจถึงผลการแพ้ชนะของการแข่งขันแล้ว เป็นการลงเดิมพันเพื่อความสนุกส่วนตัวของตัวเอง โดยคนพรุ่งนี้นั้นจะรีบทำการลงเดิมพันให้ได้มากที่สุดจำนวนเยอะที่สุดในแต่ละวัน การลงทุนที่เยอะนั้นเป็นเรื่องดีแต่ผู้เล่นนั้นควรจะให้ความสนใจในเรื่องของคุณภาพ ไม่ใช่แค่เพียงในเรื่องของปริมาณแต่เพียงอย่างเดียวในการลงทุน มีดังนี้

• ในขณะที่ผู้เล่นกำลังทำการลงเดิมพันนั้น ต่อให้การแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นไปแล้วผู้เล่นก็ยังจะสามารถทำการลงเดิมพันได้ ซึ่งจะได้รับผลกำไรเท่าเดิมเหมือนกับการลงทุนก่อนเริ่มต้นทุกประการ มีเพียงอย่างเดียวที่แตกต่างคือเรื่องของราคาบอลนั้นอาจจะมีความแปรผัน ตามสถานการณ์ปัจจุบันในการลงเดิมพันนั้นเอง
• ราคาบอลจะไม่เปลี่ยนไปมากเท่าไหร่
• ช่วงเวลาในการ แทงบอล คือ ช่วงเวลาที่ประมาณ 5 -10 นาทีก่อนที่เกมการแข่งขันกำลังจะจบลง ซึ่งเป็นช่วงเวลาดีที่ทำให้ผู้เล่นนั้นสามารถมองเห็นภาพรวมในการแข่งขันได้ และผู้เล่นจะรู้แล้วว่าฝ่ายไหนจะเป็นผู้ชนะในเกมการแข่งขัน
• พอรู้ว่าฝ่ายไหนจะเป็นผู้ชนะในการแข่งขันแล้ว ต่อมาที่ผู้เล่นจะต้องดูนั่นก็คือเรื่องของราคาบอลหรืออัตราการต่อรองและต้องดูว่ามันมีความสอดคล้องกับการลงเดิมพันที่ผู้เล่นกำลังจะทำการกำไรได้หรือไม่ โดยถ้าเกิดมันไม่สามารถทำกำไรให้ได้ก็อย่าลงทุน

ในการแทงบอลแต่ละครั้ง ผู้เล่นควรใจเย็นในการลงทุนให้ได้มากที่สุด โดยค่อย ๆ พิจารณาและวิเคราะห์ว่าทีมฟุตบอลทีมไหนจะมีโอกาสทำกำไรให้เราได้บ้าง ในแต่ละวันนั้นจะมีคู่ฟุตบอลให้ผู้เล่นลงทุนมากกว่า 10 ถึง 20 คู่ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องลงเดิมพันกับคู่ฟุตบอลทั้งหมด ชนะเพียงแค่วันละ 1 – 2 คู่แต่ชนะด้วยจำนวนเงินที่มากพอนั้นก็สามารถทำกำไรได้เท่ากันเท่านั้นเอง